เมนู

5. อุทกูปมสูตร


[15] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลมีเปรียบด้วยน้ำ 7 จำพวกนี้
มีปรากฏอยู่ในโลก 7 จำพวกเป็นไฉน บุคคลบางคนในโลกนี้
จมลงแล้วคราวเดียว ก็เป็นอันจมอยู่นั่นเอง 1 บางคนโผล่ขึ้นมาแล้ว
กลับจมลงไป 1 บางคนโผล่พ้นแล้วทรงตัวอยู่ 1 บางคนโผล่ขึ้นแล้ว
เหลียวไปมา 1 บางคนโผล่ขึ้นแล้วเตรียมตัวจะข้าม 1 บางคนโผล่
ขึ้นแล้วได้ที่พึ่ง 1 บางคนโผล่ขึ้นมาได้แล้วเป็นพราหมณ์ข้ามถึงฝั่ง
อยู่บนบก 1 ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลที่จมลงแล้วคราวเดียว
ก็เป็นอันจมอยู่นั่นเองอย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้ เป็นผู้ประกอบ
ด้วยอกุศลธรรมฝ่ายดำโดยส่วนเดียว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล
ที่จมลงแล้วคราวเดียวก็เป็นอันจมอยู่นั่นเองอย่างนี้แล.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้กลับจมลงไป
อย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้ โผล่ขึ้นมาได้ คือเขามีธรรม คือ
ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ วิริยะ ปัญญาชั้นดี ๆ ในกุศลธรรมทั้งหลาย
แต่ศรัทธาของเขานั้นไม่คงที่ ไม่เจริญขึ้น เสื่อมไปฝ่ายเดียว หิริ
โอตตัปปะ วิริยะ ปัญญาของเขานั้น ไม่คงที่ ไม่เจริญขึ้น เสื่อมไป
ฝ่ายเดียว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลที่โผล่ขึ้นมาแล้วกลับจมลง
อย่างนี้แล.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลที่โผล่ขึ้นมาแล้วทรงตัวอยู่อย่างไร
บุคคลบางคนในโลกนี้ โผล่ขึ้นมาได้ คือ เขามีธรรมเหล่านี้ คือ ศรัทธา
หิริ โอตตัปปะ วิริยะ ปัญญาชั้นดี ๆ ในกุศลธรรมทั้งหลาย แต่

ศรัทธาของเขานั้นไม่เสื่อมลง ไม่เจริญขึ้น คงที่อยู่ หิริ โอตตัปปะ
วิริยะ และปัญญาของเขานั้นไม่เสื่อมลง ไม่เจริญขึ้น คงที่อยู่ ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลาย บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้แล้วทรงตัวอยู่อย่างนี้แล.
ก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้แล้วเหลียวไปมา
อย่างไร บุคคลบางตนในโลกนี้ โผล่ขึ้นมาได้ คือ เขามีธรรมเหล่านี้
คือ ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ วิริยะ ปัญญาชั้นดี ๆ ในกุศลธรรม
ทั้งหลาย เพราะสังโยชน์ 3 สิ้นไป เขาเป็นพระโสดาบัน มีอันไม่
ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้ในเบื้องหน้า ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้แล้วเหลียวไปมาอย่างนี้แล.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้แล้วเตรียมตัว
จะข้ามอย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้ โผล่ขึ้นมาได้ คือ เขามีธรรม
เหล่านี้ คือ ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ วิริยะ ปัญญาชั้นดี ๆ ในกุศลธรรม
ทั้งหลาย เพราะสังโยชน์ 3 สิ้นไป เพราะทำราคะ โทสะ โมหะ
ให้เบาบางลง เขาเป็นพระสกทาคามี มาสู่โลกนี้อีกครั้งเดียวเท่านั้น
แล้วทำที่สุดทุกข์ได้ บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้แล้ว เตรียมตัวจะข้าม
อย่างนี้แล.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลที่โผล่ขึ้นมาแล้วได้ที่พึ่งอย่างไร
บุคคลบางตนในโลกนี้ โผล่ขึ้นมาได้ คือ เขามีธรรมเหล่านี้ คือ
ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ วิริยะ ปัญญา ชั้นดี ๆ ในกุศลธรรมทั้งหลาย
เพราะโอรัมภาคิยสังโยชน์ 5 สิ้นไป เขาเป็นพระอนาคามี จัก
ปรินิพพานในภพนั้น มีอันไม่กลับจากโลกนั้นเป็นธรรมดา บุคคล
ที่โผล่ขึ้นมาแล้วได้ที่พึ่งอย่างนี้แล.

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้แล้วเป็นพราหมณ์
ข้ามถึงฝั่งอยู่บนบกอย่างไร บุคคลบางคนในโลกนี้ โผล่ขึ้นมาได้
คือ เขามีธรรมเหล่านี้ คือ ศรัทธา หิริ โอตตัปปะ วิริยะ ปัญญา
ชั้นดี ๆ ในกุศลธรรมทั้งหลาย เขากระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญา-
วิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญา
อันยิ่งเอง ในปัจจุบัน เข้าถึงอยู่ บุคคลที่โผล่ขึ้นมาได้แล้วเป็นพราหมณ์
ข้ามถึงฝั่งอยู่บนบกอย่างนี้แล้ว ก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลเปรียบ
ด้วยน้ำ 7 จำพวกนี้แล มีปรากฏอยู่ในโลก.
จบ อุทกูปมสูตรที่ 5

อรรถกถาอุทกูปมสูตรที่ 5


อุทกูปมสูตรที่ 5

มีวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า อุทกูปมา ความว่า บุคคล ท่านเปรียบด้วยน้ำ เพราะ
ถือเอาอาการมีการดำลงเป็นต้น. สองบทว่า สกึ นิมุคฺโค ได้แก่
ดำลงคราวเดียว บทว่า เอกนฺตกาฬเกหิ พระองค์ตรัสหมายถึง
นิยตมิจฉาทิฏฐิ. บทว่า อุมฺมุชฺชติ แปลว่าผุดขึ้น. บทว่า สาธุ ความว่า
งาม คือ ดี. บทว่า หายติเยว ความว่า ย่อมเสื่อมไปหมดทีเดียว
เหมือนน้ำที่บุคคลรดลงในเครื่องกรองน้ำ ฉะนั้น. หลายบทว่า
อุมฺมุชฺชิตฺว่า วิปสฺสติ วิโลเกติ ความว่า บุคคลที่โผล่ขึ้นได้แล้ว
พิจารณาเหลียวแลดูทิศที่ควรจะไป. บทว่า ปตรติ ความว่า ชื่อว่า
เป็นผู้บ่ายหน้าต่อทิศที่ควรไปข้ามไปอยู่. สองบทว่า ปติคาธปฺปตฺโต